เก็งข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธ.ศ.ชั้นเอก (ชุดที่ ๑)

<h1>เก็งข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธ.ศ.ชั้นเอก ชุดที่ ๑</h1>


แนวข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นเอก ติวเข้มก่อนสอบธรรมสนามหลวง
{getButton} $text={วิชาพุทธานุพุทธประวัติ} $color={#009933}
๑. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่ออะไร
ก. เป็นศาสดาสร้างสันติภาพ
ข. เป็นศาสดาคุ้มครองโลก
ค. เป็นศาสดาสร้างโลก
ง. เป็นศาสดาสอนเวไนยสัตว์
๒. ความเชื่อถือข้อใดแสดงความเป็นผู้มีมานะถือตัวของชาวชมพูทวีป
ก. โลกเที่ยง
ข. โลกมีที่สุด
ค. แบ่งชั้นวรรณะ
ง. ตายแล้วเกิด
๓. ชมพูทวีปแบ่งออกเป็นกี่แคว้นใหญ่
ก. ๑๔ แคว้น
ข. ๑๕ แคว้น
ค. ๑๖ แคว้น
ง. ๑๗ แคว้น
๔. ใครประกอบด้วยลักษณะแห่งเบญจกัลยาณี
ก. พระนางมายา
ข. พระนางพิมพา
ค. พระนางกัญจนา
ง. พระนางอมิตา
๕. เมื่ออสิตดาบสไหว้สิทธัตถะกุมาร ราชกุลได้ทำอย่างไร
ก. หมดศรัทธา
ข. เกิดศรัทธา
ค. มอบโอรสเป็นบริวาร
ง. ยอมเป็นทาส
๖. พราหมณ์ชื่ออะไรทำนายเจ้าชายสิทธัตถะว่าต้องออกบวชแน่นอน
ก. รามะ
ข. อยัญญะ
ค. โกณฑัญญะ
ง. สุทัตตะ
๗. เจ้าชายสิทธัตถะมีน้องชายร่วมพระราชบิดาคือใคร
ก. พระอนุรุทธะ
ข. พระภัททิยะ
ค. พระอานนท์
ง. พระนันทะ
๘. เจ้าชายสิทธัตถะทรงหาอุบายแก้ความเมา ๓ ประการด้วยวิธีใด
ก. ทรงศึกษาไตรเพท
ข. ประทับในปราสาท
ค. เสด็จออกบรรพชา
ง. เสด็จออกไปประพาสป่า
๙. ในวันที่พระมหาบุรุษเสด็จออกผนวช มีใครห้ามปราบ
ก. พระราชบิดา
ข. พระนางพิมพา
ค. นายฉันนะ
ง. พญาวสวัตดีมาร
๑๐. การบำเพ็ญทุกรกิริยาในวาระที่ ๓ พระมหาบุรุษทรงทำอย่างไร
ก. กดพระทนต์
ข. กดพระตาลุ
ค. กลั้นลมหายใจ
ง. อดพระกายาหาร
๑๑. ข้อใดไม่ใช่ทศบารมีที่พระมหาบุรุษทรงใช้ผจญมาร
ก. ทาน
ข. ศีล
ค. สมาธิ
ง. ปัญญา
๑๒. ญาณใดเป็นเหตุให้รู้การตายและเกิดของสัตว์ทั้งหลายได้
ก. จุตูปปาตญาณ
ข. ทิพพจักษุ
ค. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ง. อาสวักขยญาณ
๑๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาปฏิจจสมุปทานที่ร่มไม้ใด
ก. พระศรีมหาโพธิ์
ข. ต้นราชายตนะ
ค. ต้นอชปาลนิโครธ
ง. ต้นมุจลินท์
๑๔. ขณะเสวยวิมุตติสุขที่รัตนฆรเจดีย์ พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาอะไร
ก. พระสูตร
ข. พระวินัย
ค. พระอภิธรรม
ง. เวไนยสัตว์
๑๕. ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับที่ใต้ต้นราชายตนะ ทรงพบใคร
ก. พราหมณ์หุหุกชาติ
ข. ตปุสสะภัลลิกะ
ค. พระยามุจลินท์
ง. ยสกุลบุตร
๑๖. ผู้ที่เข้าใจธรรมได้เมื่อผู้อื่นอธิบายความ เปรียบกับดอกบัวเหล่าใด
ก. บัวพ้นน้ำ
ข. บัวเสมอน้ำ
ค. บัวไม่พ้นน้ำ
ง. บัวในต้ม
๑๗. มัชฌิมาปฏิปทา มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. ทรมานตน
ข. ทางสายกลาง
ค. ที่สุดโต่ง
ง. ที่สุดแห่งทุกข์
๑๘. อนุปุพพีกถา พระพุทธเจ้าตรัสพรรณาเรื่องอะไรก่อน
ก. การรักษาศีล
ข. การออกบวช
ค. การให้ทาน
ง. สวรรค์
๑๙. โกลิตะทำกติกากับใคร ว่าผู้ใดบรรลุธรรมวิเศษก่อนจงบอกแก่กัน
ก. ยสกุลบุตร
ข. อัสสชิ
ค. คยากัสสปะ
ง. อุปติสสะ
๒๐. พระสาวกรูปใดได้ศิษย์ดีและเป็นกำลังพระศาสนา
ก. พระอัสสชิ
ข. พระยส
ค. พระอานนท์
ง. พระสารีบุตร
๒๑. ความปรารถนาข้อที่ ๕ ของพระเจ้าพิมพิสาร มีใจความว่าอย่างไร
ก. ขอพระอรหันต์มาสู่แคว้นของเรา
ข. ขอพระอรหันต์แสดงธรรมแก่เรา
ค. ขอให้เราได้รู้ทั่วถึงธรรมพระอรหันต์
ง. ขอให้เราได้นั่งใกล้พระอรหันต์
๒๒. พระเจ้าพิมพิสารได้ดวงตาเห็นธรรม เพราะฟังธรรมอะไร
ก. รตนสูตร
ข. มหาสมยสูตร
ค. ธชัคคสูตร
ง. อนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔
๒๓. ข้อใดเรียกว่าปฏิปุจฉาพยากรณ์
ก. ถามทีละข้อ
ข. ตอบทีละข้อ
ค. ย้อนถามแล้วตอบ
ง. ตอบทันที
๒๔. พระสาวกรูปใดมีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอด้วยพระพุทธเจ้า
ก. พระอนุรุทธะ
ข. พระอานนท์
ค. พระมหากัสสปะ
ง. พระอุบาลี
๒๕. เจ้าชายศากยะทั้ง ๖ ให้อุบาลีบวชก่อน เพราะเหตุใด
ก. พระประสงค์ของพระพุทธเจ้า
ข. ต้องการลดทิฐิมานะ
ค. ความประสงค์ของอุบาลี
ง. ให้ผู้มีอายุมากบวชก่อน
๒๖. กษัตริย์ผู้ริเริ่มทำปุพพเปตพลีในพระพุทธศาสนา พระนามว่าอะไร
ก. พระเจ้าปเสนทิโกศล
ข. พระเจ้าพิมพิสาร
ค. พระเจ้าอชาตศัตรู
ง. พระเจ้าสุทโธทนะ
๒๗. ใครประกาศว่าการบูชาเพลิงที่ตนเคยประพฤติไม่มีแก่นสาร
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระยส
ค. พระอุรุเวลกัสสปะ
ง. พระนทีกัสสปะ
๒๘. พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่าอะไรเป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลก
ก. ลาภ
ข. ยศ
ค. สุข
ง. ทกข์
๒๙. อะไรเป็นอุปสรรคของพระสาวกที่ไปประกาศพระศาสนาในยุคแรก
ก. มีคนคัดค้าน
ข. มีคนดูหมิ่น
ค. เดินทางลำบาก
ง. ให้บวชเองไม่ได้
๓๐. บรรดามาณพ ๑๖ คน ใครบรรลุธรรมช้ากว่าเพื่อน
ก. อชิตมาณพ
ข. ปิงคิยมาณพ
ค. อุทยมาณพ
ง. โปสาลมาณพ
๓๑. พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันตผลที่ไหน
ก. ถ้ำสุกรขาตา
ข. ถ้ำสัตตบรรณ
ค. ภูเขาอิสิคิลิ
ง. บ้านกัลลวาลมุตตคาม
๓๒. เหตุใดพระศาสดารับสั่งภิกษุผู้จะจาริกให้ไปลาพระสารีบุตรก่อน
ก. เรียนกัมมัฎฐาน
ข. ให้สั่งสอน
ค. ส่งพระไปด้วย
ง. ให้คาถากันภัย
๓๓. อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ดวงตาเห็นธรรม ณ สถานที่ใด
ก. เชตวัน
ข. สีตวัน
ค. เวฬุวัน
ง. มิคทายวัน
๓๔. พระอานนท์บรรลุโสดาปัตติผล เพราะฟังธรรมจากใคร
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระวัปปะ
ค. พระปุณณมันตานีบุตร
ง. พระอัสสชิ
๓๕. ใครทูลขอว่ากุลบุตรที่จะบวชต้องให้บิดามารดาอนุญาตก่อน
ก. พระเจ้าสุทโธทนะ
ข. พระอานนท์
ค. นางวิสาขา
ง. อนาถปิณฑิกะ
๓๖. พระศาสดาเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ตามคำทูลเชิญของใคร
ก. พระกาฬุทายี
ข. พระอุบาลี
ค. พระอนุรุทธะ
ง. พระอานนท์
๓๗. ธรรมุทเทศ ๔ ใครแสดงแก่ใคร
ก. พระสารีบุตรแสดงแก่พระเจ้าพิมพสาร
ข. พระอานนท์แสดงแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล
ค. พระรัฎฐบาลแสดงแก่พระเจ้าโกรัพยะ
ง. พระมหากัจจายนะแสดงแก่พระเจ้าจัณฑบัชโชต
๓๘. พระสาวกรูปใดอยู่ในครรภ์มารดานานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน
ก. พระอุบาลี
ข. พระสีวลี
ค. พระวักกลิ
ง. พระโสภิตะ
๓๙. พระนางมหาปชาบดีโคตมีแสดงความตั้งใจจะบวชอย่างไร
ก. อดอาหาร
ข. กลั้นลมหายใจ
ค. ตัดพระเกศา
ง. ออกไปอยู่ป่า
๔๐. ใครรับครุธรรม ๘ ประการเป็นคนแรก
ก. พระนางปชาบดีโคตมี
ข. นางเขมา
ค. นางโรหิณี
ง. นางปฎาจารา
๔๑. ภิกษุณีรูปใดได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศด้านพระวินัย
ก. เขมาเถรี
ข. อุบลวรรณาเถรี
ค. ปฎาจาราเถรี
ง. รูปนันทาเถรี
๔๒. พระนางเขมาเถรีได้รับเอตทัคคะด้านใด
ก. มีปัญญามาก
ข. มีฤทธิ์มาก
ค. ชำนาญสมาบัติ
ง. มีความเพียรมาก
๔๓. ดอกไม้ชนิดใดตกจากสวรรค์ในวันพระศาสดาปรินิพพาน
ก. ดอกปาริฉัตร
ข. ดอกสาละ
ค. ดอกบัวสวรรค์
ง. ดอกมณฑารพ
๔๔. พระกายของพระศาสดาผ่องใสยิ่งนักในกาลใด
ก. ประสูติ
ข. ตรัสรู้
ค. ปรินิพพาน
ง. ตรัสรู้และปรินิพพาน
๔๕. ใครเป็นผู้ถวายผ้าสิงคิวรรณ
ก. ตปุสสะ
ข. ปุกกุสะ
ค. ภัลลิกะ
ง. จุนทกัมมารบุตร
๔๖. ข้อใดไม่จัดเป็นถูปารหบุคคล
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระอรหันต์
ค. พระเจ้าจักรพรรดิ
ง. พระอนาคามี
๔๗. ทูตที่มาขอแบ่งพระสารีริกธาตุครั้งแรก มีกี่พระนคร
ก. ๖ พระนคร
ข. ๗ พระนคร
ค. ๘ พระนคร
ง. ๙ พระนคร
๔๘. ใครเป็นอัครศาสนูปถัมภกในคราวทำสังคายนาครั้งแรก
ก. พระเจ้าอชาตศัตรู
ข. พระเจ้าอโศก
ค. มัลลกษัตริย์
ง. เจ้าลิจฉวี
๔๙. พระสาวกรูปใดบรรลุพระอรหันต์ในคืนก่อนทำปฐมสังคายนา
ก. พระอุบาลี
ข. พระอานนท์
ค. พระสุภัททะ
ง. พระฉันนะ
๕๐. สังเวชนียสถานทั้ง ๔ ตำบล จัดเป็นเจดีย์ประเภทใด
ก. ธาตุเจดีย์
ข. บริโภคเจดีย์
ค. ธรรมเจดีย์
ง. อุทเทสิกเจดีย์