เก็งข้อสอบวิชากรรมบถ (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นเอก ระดับมัธยมศึกษา

<h1>เก็งข้อสอบวิชากรรมบถ (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นเอก ระดับมัธยมศึกษา</h1>


เก็งข้อสอบวิชากรรมบถ (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นเอก ระดับมัธยมศึกษา
{getButton} $text={บทที่ ๑ ว่าด้วยกรรมบถ} $color={#009933}
๑. วิชากรรมบถ เน้นหลักคำสอนว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ก. กรรม
ข. ขอพรพระเจ้า
ค. สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ง. สิ่งลี้ลับ
๒. ข้อใด เป็นคำแปลของกรรบถ ?
ก. ทางทำกรรม
ข. ผลของกรรม
ค. การทำกรรม
ง. การชดใช้กรรม
๓. ข้อใด เป็นความหมายของกุศลกรรมบถ ?
ก. ทางแห่งความดี
ข. ทางแห่งกรรม
ค. ทางแห่งอบาย
ง. ทางก้าวหน้า
๔. กรรมบถ กล่าวถึงการกระทำทางใด ?
ก. กาย
ข. วาจา
ค. ใจ
ง. ถูกทุกข้อ
๕. คนจะดีหรือเลว พิจารณาจากอะไร ?
ก. การกระทำ
ข. คำพูด
ค. ความคิด
ง. ถูกทุกข้อ
๖. การได้ไปเกิดในสวรรคหรือมนุษย์โลก เรียกว่าอะไร ?
ก. สุคติ
ข. ทุคติ
ค. ภพ
ง. ภูมิ
๗. ข้อใดส่งผลให้ไปเกิดในสุคติภมิ ?
ก. อกุศลกรรมบถ
ข. กุศลกรรมบถ
ค. อกุศลเจตนา
ง. อกุศลมูล
๘. การทำความดีความชั่วของสัตว์ เกิดขึ้นได้ทางใด ?
ก. การกระทำ
ข. คำพูด
ค. ความคิด
ง. ถูกทุกข้อ
๙. การกระทำของสัตว์จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วได้ ต้องประกอบด้วยอะไร ?
ก. อารมณ์
ข. ความรู้สึก
ค. เหตุจูงใจ
ง. เจตนา
๑๐. สิ่งใด สำคัญที่สุดในการกระทำความดีความชั่ว ?
ก. เจตนา
ข. อารมณ์
ค. อวิชชา
ง. สังขาร
๑๑. การทำความดีความชั่วของสัตว์ จำแนกของเป็นกี่ประเภท ?
ก. ๒ ประเภท
ข. ๓ ประเภท
ค. ๔ ประเภท
ง. ๕ ประเภท
๑๒. ข้อใด เป็นมูลเหตุให้บุคคลประเพฤติอกุศลกรรมบถ ?
ก. ความโลภ
ข. ความโกรธ
ค. ความหลง
ง. ถูกทุกข้อ
๑๓. การประพฤติผิดในกาม เป็นอกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๔. การละเมิดทางเพศ เป็นอกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๕. การพูดโกหก เป็นอกุศลกรรมใดประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๖. การพูดเพ้อเจ้อ เป็นอกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๗. โลภอยากได้ของเขา เป็นอกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๘. การกระทำความชั่วมีอะไรเป็นมูลเหตุ ?
ก. กุศลมูล
ข. อกุศลมูล
ค. กุศลจิต
ง. อกุศลจิต
๑๙. เมื่อโลภะเกิดขึ้น หากระงับไม่ได้ จะทำให้คนเราทำความผิดใด ?
ก. ทำร้ายกัน
ข. ลักขโมยกัน
ค. นอกใจกัน
ง. เชื่อเรื่องงมงาย
๒๐. เมื่อโทสะเกิดขึ้น หากระงับไม่ได้ จะทำให้คนเราทำความผิดใด ?
ก. ทำร้ายกัน
ข. ลักขโมยกัน
ค. นอกใจกัน
ง เชื่อเรื่องงมงาย


{getButton} $text={บทที่ ๒ อกุศลกรรมบถ} $color={#009933}
๑. การทำร้ายร่างกาย เป็นปาณาติบาตเกิดขึ้นทางใด ?
ก. ทางกาย
ข. ทางวาจา
ค. ทางกายกับวาจา
ง. ถูกทุกข้อ
๒. สิ่งให้คนอื่นฆ่า จัดเป็นปาณาติบาตเกิดขึ้นทางใด ?
ก. ทางกาย
ข. ทางวาจา
ค. ทางกายกับวาจา
ง. ถูกทุกข้อ
๓. ความคิดใด เป็นองค์ประกอบในการทำความผิดปาณาติบาต ?
ก. คิดจะฆ่า
ข. คิดจะลัก
ค. คิดจะพูดให้คลาดเคลื่อน
ง. คิดจะเสพ
๔. ข้อใด ไม่ใช่ปาณาติบาตเกิดทางกาย ?
ก. ใช้มีดฆ่า
ข. ใช้ปืนยิ่ง
ค. ใช้เครื่องทรมาน
ง. สั่งให้คนอื่นฆ่า
๕. โทษเบาที่สุดในการทำปาณาติบาต คือข้อใด ?
ก. ครอบครัวแตกแยก
ข. ขัดสนเงินทอง
ค. วิกลจริต
ง. อายุสั้น
๖. ข้อใด เป็นผลกรรมเกิดจากการทำปาณาติบาต ?
ก. อายุสั้น
ข. ทรัพย์สูญหาย
ค. ครอบครัวแตกแยก
ง. ขาดความเชื่อถือ
๗. ข้อใด เป็นอกุศลกรรมบถข้ออทินนาทาน ?
ก. ทุจริตเงินคนจน
ข. ทุจริตเงินทอน
ค. ทุจริตอาหารเด็ก
ง. ถูกทุกข้อ
๘. การทุจริตเงินอาหารกลางวันเด็กนักเรียน เป็นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. มุสาวาท
ง. พยาบาท
๙. ความละโมบโลภมาก ส่งผลให้คนเราทำอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อทินนาทาน
ข. กาเมสุมิจฉาจาร
ค. ผรุสวาจา
ง. มุสาวาท
๑๐. ข้อใด เป็นอทินนาทานเกิดทางวาจา ?
ก. สั่งให้ลักทรัพย์
ข. วิ่งราวทรัพย์
ค. ปล้นทรัพย์
ง. ทำร้ายทรัพย์
๑๑. ผู้ปรารถนาเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ควรงดเว้นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร
ง. พยาบาท
๑๒. ข้อใด เป็นผลกรรมเกิดจากการทำอทินนาทาน ?
ก. เจ็บป่วยเรื้อรัง
ข. ยากจนขันสน
ค. ศัตรูมาก
ง. ปัญญาทึบ
๑๓. อกุศลกรรมบถข้อที่ ๓ เกิดจากการทำความผิดใด ?
ก. ผิดวินัย
ข. ผิดระเบียบ
ค. ผิดกติกา
ง. ผิดประเวณี
๑๔. พฤติกรรมใด เรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร ?
ก. คบชู้
ข. คบเพื่อน
ค. คบค้า
ง. คบคิด
๑๕. การกระทำใด เรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร ?
ก. คบชู้
ข. คบเพื่อน
ค. คบคนพาล
ง. คบบัณฑิต
๑๖. ข้อใด เป็นหญิงต้องห้ามในการทำกาเมสุมิจฉาจาร ?
ก. หญิงมีสามี
ข. หญิงมีญาติรักษา
ค. หญิงมีธรรมรักษา
ง. ถูกทุกข้อ
๑๗. กาเมสุมิจฉาจาร จะสำเร็จเป็นกรรมบถได้ ต้องเกิดจากการกระทำทางใด ?
ก. กาย
ข. วาจา
ค. ใจ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๘. สำนวนใด มีความหมายสอดคล้องกับกาเมสุจฉาจาร ?
ก. น้ำมาปลากินมด
ข. น้ำนิ่งไหลลึก
ค. จับปลาสองมือ
ง. น้ำขึ้นให้รีบตัก
๑๙. โรคชนิดใด มีกาเมสุมิจฉาจารเป็นต้นเหตุ ?
ก. เอดส์
ข. มะเร็งปอด
ค. ไวรัสตับ
ง. กล้ามเนื้ออ่อนแรง
๒๐. พูดให้ผิดจากความเป็นจริง เป็นอกุศลกรรมบถทางวาจาประเภทใด ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๒๑. อกุศลกรรมบถข้อมุสาวาท เกิดขึ้นได้ทางใด ?
ก. กาย วาจา
ข. กาย ใจ
ค. วาจา ใจ
ง. กาย วาจา ใจ
๒๒. พูดอย่างไร เรียกว่า พูดส่อเสียด ?
ก. พูดโกหก
ข. พูดยุแยงให้แตกกัน
ค. พูดคำหยาบ
ง. พูดเล่น
๒๓. พูดยุยงให้ผู้อื่นเกิดความแตกแยก เป็นอกุศลกรรมบถทางวาจาประเภทใด ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๒๔. พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เพราะไม่งดเว้นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๒๕. คำพูดใด ผู้พูดมีเจตนามุ่งทำร้ายจิตใจผู้ฟัง ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๒๖. เจตนาเป็นเหตุให้พูดคำหยาบ เรียกว่าอะไร ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๒๗. ข้อใด ถือว่าพูดมีเจตนามุ่งทำลายจิตใจผู้ฟัง ?
ก. พูดเท็จ
ข. พูดคำหยาบ
ค. พูดส่อเสียด
ง. พูดคำหยาบ
๒๘. คำพูดเช่นไร เรียกว่า ผรุสวาจา ?
ก. ไพเราะเสนาะหู
ข. ส่อเสียด
ค. โกหก
ง. หยาบคาย
๒๙. คำดุด่าเช่นไร ไม่ถือเป็นผรุสวาจา ?
ก. ด่าเพราะสั่งสอน
ข. ด่าเพราะเกลียด
ค. ด่าเพราะโกรธ
ง. ด่าเพราะชัง
๓๐. พูดอย่างไร เรียกว่า สัมผัปปลาปะ ?
ก. พูดโกหก
ข. พูดคำหยาบ
ค. พูดส่อเสียด
ง. พูดไร้สาระ
๓๑. การกล่าวถ้อยคำอันไร้ประโยชน์สำหรับผู้ฟัง เรียกว่าอะไร ?
ก. มุสาวาท
ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรุสวาจา
ง. สัมผัปปลาปะ
๓๒. ข้อใด เป็นผลกรรมเกิดจากการกล่าวมุสาวาท ?
ก. มีอายุสั้น
ข. ทรัพย์วิบัติ
ค. มีศัตรูรอบด้าน
ง. ถูกกล่าวตูใส่ร้าย
๓๓. ข้อใด จัดเป็นอกุศลกรรมบถเกิดขึ้นทางใจ ?
ก. อภิชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. อพยาบาท
ง. สัมมาทิฏฐิ
๓๔. ข้อใด จัดเป็นอกุศลกรรมบถเกิดขึ้นทางใจ ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๓๕. มีจิตคิดละโมบอยากได้ของผู้อื่น เรียกว่าอะไร ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๓๖. การเพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น จัดเป็นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๓๗. เมื่ออภิชฌาเกิดขึ้นในใจ เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. พยาบาท
๓๘. คิดจะทำลายประโยชน์สุขผู้อื่นให้พินาศไป เรียกว่าอะไร ?
ก. อภชฌา
ข. พยาบาท
ค. โมหะ
ง. โลภะ
๓๙. คิดปองร้ายผู้อื่น เรียกว่าอะไร ?
ก. พยาบาท
ข. อภชฌา
ค. กายกรรม
ง. มโนกรรม
๔๐. ความคิดปองร้ายผู้อื่น โดยตรงเกิดจากอกุศลมูลใด ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๑. ความพยาบาทเกิดขึ้นเพราะกิเลสใด ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๒. ข้อใด เพียงแค่คิดก็เป็นความชั่วแล้ว ?
ก. อทินนาทาน
ข. มุสาวาท
ค. ผรุสวาจา
ง. พยาบาท
๔๓. ข้อใด เป็นความชั่วเกิดจากความคิด ?
ก. อทินนาทาน
ข. มุสาวาท
ค. ผรุสวาจา
ง. พยาบาท
๔๔. ความเห็นใด ปฏิเสธกรรมและผลของกรรม ?
ก. อภชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. สัมมาทิฏฐิ
ง. มิจฉาทิฏฐิ
๔๕. การเห็นผิดจากคลองธรรม เรียกว่าอะไร ?
ก. อภิชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. สัมมาทิฏฐิ
ง. มิจฉาทิฏฐิ
๔๖. ความเห็นใด ไม่ใช่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก. โลกหน้าไม่มี
ข. บาปบุญไม่มี
ค. ตายแล้วสูญ
ง. ผลทานมีจริง
๔๗. คนมิจฉาทิฏฐิ มีลักษณะเช่นไร ?
ก. ชอบด่า
ข. อยากได้
ค. มักโกรธ
ง. เห็นผิดเป็นชอบ
๔๘. ความเห็นว่าบาปบุญไม่มีจริง เรียกว่าอะไร ?
ก. อุจเฉททิฏฐิ
ข. อกิริยทิฏฐิ
ค. นัตถิกทิฏฐิ
ง. สัสสตทิฏฐิ
๔๙. เห็นว่าทำความชั่วไม่บาป เป็นมิจฉาทิฏฐิประเภทใด ?
ก. อุจเฉททิฏฐิ
ข. อกิริยทิฏฐิ
ค. นัตถิกทิฏฐิ
ง. สัสสตทิฏฐิ
๕๐. ความเห็นว่ามีอัตตาและโลกเที่ยงแท้ยั่งยืน เรียกว่าอะไร ?
ก. อุจเฉททิฏฐิ
ข. อกิริยทิฏฐิ
ค. นัตถิกทิฏฐิ
ง. สัสสตทิฏฐิ


{getButton} $text={บทที่ ๓ กุศลกรรมบถ} $color={#009933}
๑. กายกรรม ๓ จะสเร็จความเป็นกรรมบถได้เพราะอะไร ?
ก. เจตนา
ข. อารมณ์
ค. เวทนา
ง. มูลเหตุ
๒. เจตนางดเว้นจากการทำความชั่ว ตรงกับคำใด ?
ก. เวรมณี
ข. ศีล
ค. สิกขาบท
ง. วิรัติ
๓. กุศลกรรมบถ ๑ๆ ประการ จัดเข้าในไตรสิกขาใด ?
ก. ศีล
ข. สมาธิ
ค. ปัญญา
ง. ถูกทุกข้อ
๔. กูศลกรรมบถใด เป็นการทำความดีทางกาย ?
ก. เว้นมุสาวาท
ข. เว้นปิสุณวาจา
ค. เว้นอทินนาทาน
ง. เว้นสัมผัปปลาปะ
๕. ข้อใด เป็นการทำความดีทางวาจา ?
ก. เว้นมุสาวาท
ข. เว้นปิสุณวาจา
ค. เว้นสัมผัปปลาปะ
ง. ถูกทุกข้อ
๖. กุศลกรรมบถใด เป็นการทำความดีทางใจ ?
ก. เว้นปาณาติบาต
ข. เว้นมุสาวาท
ค. เว้นผรุสวาจา
ง. เว้นพยาบาท
๗. เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เป็นกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. พยาบาท
ง. อพยาบาท
๘. ข้อใด เป็นกรรมบถเกิดขึ้นทางใจอย่างเดียว ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร
ง. อพยาบาท
๙. ข้อใด ไม่ใช่ธรรมจริยสมจริยาทางกาย ?
ก. เว้นฆ่าสัตว์
ข. เว้นลักทรัพย์
ค. เว้นทำผิดในกาม
ง. เว้นพูดเท็จ
๑๐. ความคิดไม่ผูกอาฆาตพยาบาทจองเวร เกิดขึ้นจากกุศลมูลใด ?
ก. อโลภะ
ข. อโทสะ
ค. อโมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๑. การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๒. เว้นจากการพยาบาท เป็นกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๓. ข้อใด เป็นกุศลกรรมบถเกิดขึ้นทางใจ ?
ก. สัมมาทิฏฐิ
ข. อภิชฌา
ค. พยาบาท
ง. มิจฉาทิฏฐิ
๑๔. เมื่ออภิชฌาเกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นเหตุให้กระทำกุศลกรรมบถใด ?
ก. เว้นฆ่าสัตว์
ข. เว้นลักทรัพย์
ค. เว้นทำผิดในกาม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๕. อนภิชฌา อพยาบาท สัมมาทิฏฐิ เป็นกุศลกรรมบถประเภทใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๖. การไม่เพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น เรียกว่าอะไร ?
ก. อภิชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. สัมมาทิฏฐิ
๑๗. อนภิชฌา มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ไม่โลภอยากได้
ข. ไม่พูดมาก
ค. ไม่คิดมาก
ง. ไม่โกรธมาก
๑๘. อนภิชฌา ตรงข้ามกับอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๙. การงดเว้นกาเมสุมิจฉาจาร ช่วยแก้ปัญหาเรื่องใด ?
ก. ทำร้ายกัน
ข. ลักขโมย
ค. คนประพฤตินอกใจคู่ครอง
ง. ให้ร้ายกัน
๒๐. ข้อใด เป็นธรรมจริยสมจริยาทางวาจา ?
ก. เว้นฆ่าสัตว์
ข. เว้นลักทรัพย์
ค. เว้นพูดส่อเสียด
ง. ไม่คิดร้ายผู้อื่น
๒๑. คำพูดยุยงปลุกปั่นให้แตกสามัคคี แก้ได้ด้วยกุศลกรรมบถใด ?
ก. เว้นมุสาวาท
ข. เว้นปิสุณวาจา
ค. เว้นผรุสวาจา
ง. เว้นสัมผัปปลาปะ
๒๒. บุคคลประพฤติเช่นไร ได้ชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ ?
ก. ไม่โลภอยากได้
ข. ไม่คิดร้ายคนอื่น
ค. ไม่พูดส่อเสียด
ง. ไม่เนรคุณพ่อแม่
๒๓. ข้อใด เป็นกุศลกรรมบถเกิดขึ้นเฉพาะทางกายอย่างเดียว ?
ก. เว้นปาณาติบาต
ข. เว้นอทินนาทาน
ค. เว้นกาเมสุมิจฉาจาร
ง. เว้นมุสาวาท
๒๔. สัมมาทิฏฐิ ตรงข้ามกับอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๒๕. ความเห็นที่เป็นสัมมาทิฏฐิ เกิดขึ้นจากกุศลมูลใด ?
ก. อโลภะ
ข. อโทสะ
ค. อโมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๒๖. การไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน ตรงกับอุปนิสัยใด ?
ก. ทานูปนิสัย
ข. สีลูปนิสัย
ค. ภาวนูปนิสัย
ง. ถูกทุกข้อ
๒๗. ความเห็นใด เป็นสัมมาทิฏฐิ ?
ก. บาปบุญมีจริง
ข. บาปบุญไม่มีจริง
ค. โลกหน้าไม่มี
ง. ตายแล้วสูญ
๒๘. กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ จัดเข้าในอุปนิสัยข้อใด ?
ก. ทานุปนิสัย
ข. สีลุปนิสัย
ค. ภาวนุปนิสัย
ง. ถูกทุกข้อ
๒๙. อุปนิสัยใด ทำความโลภให้เบาบางลง ?
ก. ทานุปนิสัย
ข. สีลุปนิสัย
ค. ภาวนุปนิสัย
ง. ถูกทุกข้อ
๓๐. ในกรรมบถ ๒ อย่างนั้น กุศลกรรมบถ เรียกว่าอะไร ?
ก. ทุจริต
ข. สุจริต
ค. กุศลมูล
ง. อกุศลมูล
๓๑. ข้อใด เป็นอานิสงส์แห่งการประพฤติกุศลกรรมบถ ?
ก. เกิดเป็นมนุษย์
ข. เกิดเป็นเปรต
ค. เกิดเป็นอสุรกาย
ง. เกิดเป็นสัตว์
๓๒. ข้อใด เป็นผลสูงสุดในการประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ ?
ก. ทำดี
ข. พูดดี
ค. คิดดี
ง. มีจิตหลุดพ้น