เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นโท วิชาอนุพุทธประวัติ ปีพ.ศ.๒๕๖๖

เก็งข้อสอบวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท พ.ศ.๒๕๖๖



  1. อนุพุทธบุคคล คือใคร ? มีความสำคัญอย่างไร ?
    ตอบ อนุพุทธบุคคล คือ สาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า ฯ
    อนุพุทธบุคคลเป็นสังฆรัตนะในรัตนะ ๓ เป็นพยานยืนยันความ ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นกำลังสำคัญช่วยพระองค์ประกาศ พระพุทธศาสนา อันเป็นประโยชน์สุขแก่ชนเป็นอันมาก จนแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน ฯ
  2. พุทธบุคคล มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ?
    ตอบ พุทธบุคคล มี ๓ ประเภท ฯ คือ
    ๑. สัมมาสัมพุทธะ ตรัสรู้เองโดยชอบ และสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ด้วย
    ๒. ปัจเจกพุทธะ ตรัสรู้เฉพาะตน แต่ไม่สามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้
    ๓. อนุพุทธะ ตรัสรู้ตาม คือมีพระพุทธเจ้าสั่งสอนจึงรู้ตามได้ และ สามารถสอนผู้อื่นให้กระทําตามด้วย ฯ
  3. โกณฑัญญพราหมณ์ มีเหตุจูงใจอะไร จึงได้ออกบวช ตามพระมหาบุรุษ ?
    ตอบ เพราะเคยเข้าร่วมทํานายพระลักษณะของพระมหาบุรุษโดยเชื่อมั่นว่าจะได้ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้าแน่นอน จึงออกบวชตามด้วยหวังว่า เมื่อพระมหาบุรุษตรัสรู้แล้วจักทรงเทศนา โปรดตนให้รู้ตาม ฯ
  4. “ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ” เป็นคำอุทานของใคร ? เพราะเหตุใดจึงอุทานอย่างนั้น ?
    ตอบ เป็นคำอุทานของยสกุลบุตร ฯ
    เพราะเห็นหมู่ชนบริวารนอนหลับมีอาการพิกลต่าง ๆ ดุจซากศพที่ทิ้งอยู่ในป่าช้าจึงเกิดความสลดใจคิดเบื่อหน่าย ฯ
  5. พระปัญจวัคคีย์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะฟังธรรมเทศนาชื่ออะไร ? พระธรรมเทศนานั้น โดยย่อว่าด้วยเรื่องอะไร ?
    ตอบ พระปัญจวัคคีย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะฟังธรรมเทศนา ชื่อ อนัตตลักขณสูตร ฯ
    พระธรรมเทศนาโดยย่อว่าด้วยเรื่อง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ฯ
  6. เอหิภิกขุอุปสัมปทาที่ประทานแก่พระอัญญาโกณทัญญะ และพระยสต่างกันอย่างไร ? เพราะเหตุไร ?
    ตอบ ต่างกัน คือ ที่ประทานแก่โกณฑัญญะมีคำว่า เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ ส่วนที่ประทานแก่พระยสไม่มีคำว่า เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ ฯ
    เพราะพระโกณฑัญญะยังไม่ถึงที่สุดทุกข์ ส่วนพระยสได้ถึงที่สุด ทุกข์แล้ว ฯ
  7. พระพุทธองค์ทรงแสดงอนุปุพพิกถา แก่ใครเป็นคนแรก ? อนุปุพพิกถานั้น กล่าวถึงเรื่องอะไร ?
    ตอบ ทรงแสดงแก่ยสกุลบุตรเป็นคนแรก ฯ
    อนุปุพพิกถา กล่าวพรรณนา ทานคือการให้ แล้วพรรณนาศีลคือ ความรักษา กาย วาจา เรียบร้อย พรรณนาสวรรค์คือกามคุณที่บุคคลใคร่ ซึ่งจะพึงได้พึงถึงด้วยกรรมอันดี คือทานและศีล พรรณนาโทษแห่งกาม และ พรรณนาอานิสงส์แห่งความออกไปจากกาม ฯ
  8. พระสาวกที่พระพุทธองค์ทรงส่งไปประกาศพระศาสนาครั้งแรก มีจำนวนเท่าไร ? ประกอบด้วยใครบ้าง ?
    ตอบ พระสาวกที่ไปประกาศพระศาสนาคร้ังแรก มีจำนวน ๖๐ องค์ ฯ
    ประกอบด้วย ปัญจวัคคีย์, พระยสะ, พระวิมละ, พระสุพาหุ, พระปุณณชิ, พระควัมปติ, เพื่อนพระยสะอีก ๕๐ องค์ ฯ
  9. พระพุทธเจ้าทรงยกย่องใครว่าเป็นผู้มีบริวารมาก ? เพราะเหตุไร ?
    ตอบ ทรงยกย่อง พระอุรุเวลกัสสปะ ฯ
    เพราะเหตุที่ท่านเป็นผู้รู้จักเอาใจบริวาร รู้จักสงเคราะห์ด้วยธรรมบ้าง ด้วยอามิสบ้าง ผู้ประกอบด้วยคุณสมบัตินี้ย่อมเป็นผู้สามารถควบคุมบริวารใหญ่ไว้ได้ ฯ
  10. ชฎิล ๓ พี่น้อง มีชื่ออะไรบ้าง ? ได้บรรลุพระอรหันต์ เพราะฟังพระธรรมเทศนาชื่ออะไร ?
    ตอบ พระอุรุเวลกัสสปะ พระนทีกัสสปะ และพระคยากัสสปะ ฯ
    ได้บรรลุพระอรหันต์เพราะฟังพระธรรมเทศนาชื่อ อาทิตตปริยายสูตร ฯ
  11. พระอัสสชิได้แสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชก มีใจความย่อว่าอย่างไร ?
    ตอบ มีใจความย่อว่า "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุพระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนอย่างนี้"
  12. พระพุทธองค์ทรงยกย่องพระสารีบุตรคู่กับพระโมคคัลลานะ โดยอุปมาไว้อย่างไร ?
    ตอบ พระพุทธองค์ตรัสอุปมาว่า พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ให้ทารกเกิด พระโมคคลัลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกนั้นที่เกิดแล้ว ฯ
  13. ธรรมเสนาบดี และนวกัมมาธิฏฐายี เป็นนามของพระสาวกองค์ใด ? เพราะเหตุไรจึงมีนามเช่นนั้น ?
    ตอบ ธรรมเสนาบดี เป็นนามของพระสารีบุตรเถระเพราะท่านเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการประกาศพระพุทธศาสนา ฯ
    นวกัมมาธิฏฐายี เป็นนามของพระโมคคัลลานเถระ เพราะท่านเป็นผู้สามารถกำกับดูแลการก่อสร้าง ฯ
  14. พระสาวกรูปใดได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นผู้กตัญญูกตเวที ? จงแสดงตัวอย่างมาสัก ๒ เรื่อง
    ตอบ ทรงยกย่อง พระสารีบุตรเถระ ฯ
    เรื่องที่ ๑ พระสารีบุตรนับถือพระอัสสชิเป็นอาจารย์ เมื่ออาจารย์อยู่ในทิศใด ก่อนจะนอนท่านจะนมัสการ และนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น
    เรื่องที่ ๒ พระสารีบุตรระลึกถึงอุปการะของราธพราหมณ์ที่เคยถวายภิกษาแก่ ท่านทัพพีหนึ่ง ฯ
  15. พระมหากัสสปะโดยปกติถือธุดงค์กี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
    ตอบ พระมหากัสสปะถือธุดงค์ ๓ อย่าง ฯ ได้แก่
    ๑) ใช้ผ้าบังสุกุลจีวรเป็นวัตร
    ๒) ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร
    ๓) ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ฯ
  16. พระมหากัสสปเถระเป็นประธานในการทำสังคายนาครั้งแรกที่ไหน ? ใช้เวลานานเท่าไร ?
    ตอบ ที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา กรุงราชคฤห์ ฯ ใช้เวลา ๗ เดือน ฯ
  17. สามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนาคือใคร ? ได้บรรลุพระอรหันต์เพราะฟังธรรมจากใคร ?
    ตอบ สามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ พระราหุลเถระ ได้บรรลุพระอรหันต์เพราะฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฯ
  18. พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอุปมาด้วยพิณ ๓ สาย แก่ใคร ? ด้วยทรงพระประสงค์ใด ?
    ตอบ พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระโสณโกฬิวิสะ ฯ
    ด้วยทรงพระประสงค์จะให้ท่านทำความเพียรพอประมาณ เพราะท่านทำความเพียรอย่างยิ่ง เดินจงกรมจนเท้าแตก ฯ
  19. จงระบุชื่อพระสาวกผู้ที่บวชเพราะเหตุต่อไปนี้
    ๑. บวชเพราะศรัทธา
    ๒. บวชเพราะจำใจ
    ๓. บวชเพราะหลงไหลในรูป ฯ

    ตอบ บวชเพราะศรัทธา คือ พระรัฐบาล
    บวชเพราะจำใจ คือ พระนันทะ
    บวชเพราะหลงใหลในรูป คือ พระวักกลิ ฯ
  20. พระสาวกผู้ได้รับการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาเป็นองค์แรกคือใคร ? ท่านได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายอย่างไร ?
    ตอบ พระราธะ ฯ ได้รับยกย่องว่า เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ คือญาณแจ่มแจ้งในธรรมเทศนา ฯ
  21. ธรรมุเทศ มีอะไรบ้าง ? ใครแสดงแก่ใคร ?
    ตอบ ธรรมุเทศ ได้แก่
    ๑) โลกคือหมู่สัตว์ อันชรานำเข้าไปใกล้ไม่ยั่งยืน
    ๒) โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่จำเพาะตน
    ๓) โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีอะไรเป็นของๆ ตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป
    ๔) โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิตย์ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา ฯ
    พระรัฐบาลแสดงธรรมนี้ถวายแก่พระเจ้าโกรัพยะ ฯ
  22. พระโอวาทที่พระศาสดาทรงประทานในการให้อุปสมบทแก่พระมหากัสสปะมีกี่ข้อ ? อะไรบ้าง ?
    ตอบ มี ๓ ข้อ ฯ คือ
    ๑. เราจักเข้าไปตั้งความละอาย และความยำเกรงอย่างแรงกล้าไว้ในภิกษุทั้งที่เป็นเถระปานกลาง และผู้ใหม่
    ๒. เราจักเงี่ยหูลงฟังธรรม อันประกอบด้วยกุศล และพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมนั้น
    ๓. เราจักไม่ละสติที่ไปในกาย ฯ
  23. พระสาวกผู้อธิบายภัทเทกรัตตสูตรที่ทรงแสดงโดยย่อให้พิสดารคือใคร ? ท่านได้รับการสรรเสริญจากพระศาสดาว่าอย่างไร ?
    ตอบ คือ พระมหากัจจายนะ ฯ ท่านได้รับสรรเสริญจากพระศาสดาว่า เป็นผู้ฉลาดในการอธิบายคําที่ย่อให้พิสดาร ฯ
  24. ปัญหาว่า "โลกคือหมู่สัตว์อันอะไรปิดบังไว้จึงหลงอยู่ในที่มืด" ดังนี้ ใครเป็นผู้ถาม ? และพระศาสดาทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?
    ตอบ อชิตมาณพเป็นผู้ถาม ฯ ทรงพยากรณ์ว่า โลกคือหมู่สัตว์ อันอวิชชาคือความไม่รู้แจ้งปิดบังไว้ จึงหลงดุจอยู่ในที่มืด ฯ
  25. พระเถระและพระเถรีผู้มีชื่อต่อไปนี้ ได้รับเอตทัคคะในทางไหน ?
    ก. พระมหากัจจายนะ
    ข. พระโมฆราช
    ค. พระราหุล
    ง. ปฏาจาราเถรี
    จ. อุบลวรรณาเถรี

    ตอบ ก. พระมหากัจจายนะ เป็นเอตทัคคะในทางอธิบายคำย่อให้พิสดาร
    ข. พระโมฆราช เป็นเอตทัคคะในทางทรงจีวรเศร้าหมอง
    ค. พระราหุล เป็นเอตทัคคะในทางผู้ใฝ่ใจศึกษาพระธรรมวินัย
    ง. ปฏาจาราเถรี เป็นเอตทัคคะในทางทรงวินัย
    จ. อุบลวรรณาเถรี เป็นเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์ ฯ
  26. การศึกษาให้เข้าใจในศาสนพิธี มีประโยชน์อย่างไร ?
    ตอบ ๑. ทำให้เข้าใจเรื่องของศาสนพิธีได้โดยถูกต้อง
    ๒. ทำให้เห็นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ไร้สาระ
    ๓. ทำให้ปฏิบัติได้ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนจากขนบธรรมเนียมประเพณี ฯ
  27. จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้ การเข้าพรรษา การออกพรรษา ?
    ตอบ การเข้าพรรษา หมายถึง การที่ภิกษุผูกใจว่าจะอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดเวลา ๓ เดือนในฤดูฝน ไม่ไปค้างแรมให้ล่วงราตรีในที่แห่งอื่นระหว่างผูกใจนั้น เว้นแต่ไปด้วยสัตตาหกรณียะ ฯ
    การออกพรรษา หมายถึง กาลที่สิ้นสุดกําหนดอยู่จําพรรษาของภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ มีพิธีเป็นสังฆกรรมพิเศษโดยเฉพาะ เรียกโดยภาษาพระวินัยว่า ปวารณากรรม คือการทําปวารณาของสงฆ์ผู้อยู่ร่วมกันตลอดเวลา ๓ เดือน ฯ
  28. ธรรมเนียมของสงฆ์ที่พึ่งปฏิบัติชอบต่อกันเพื่อความ สามัคคี เรียกว่าอะไร ? หมายถึงอะไร ?
    ตอบ เรียกว่า สามีจิกรรม ฯ หมายถึง การขอขมาโทษ และการให้อภัยกัน ฯ
  29. สามีจิกรรม หมายถึงอะไร ? มีกี่แบบ ? อะไรบ้าง ?
    ตอบ สามีจิกรรม หมายถึง การขอขมาโทษกันให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษ ขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย ฯ
    มี ๒ แบบ ฯ ได้แก่
    ๑) แบบขอขมาโทษ
    ๒) แบบถวายสักการะ ฯ
  30. วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกว่าวันอะไร ?
    ตอบ เรียกว่า วันเทโวโรหณะ ตรงกับวันมหาปวารณา วันเพ็ญเดือน ๑๑ ฯ