เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี วิชาวินัยบัญญัติ ปีพ.ศ.๒๕๖๖
-
พระวินัย คืออะไร ? ภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้วย่อมได้ อานิสงส์อย่างไร ?
ตอบ พระวินัย คือ พระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร ฯ
ย่อมได้อานิสงส์ คือไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับความแช่มชื่นว่าได้ประพฤติดีงาม จะเข้าหมู่ภิกษุผู้มีศีลก็องอาจไม่สะทกสะท้าน ฯ -
นิสสัย และ อกรณียกิจ คืออะไร ? ทั้ง ๒ อย่างรวมเรียกว่าอะไร ?
ตอบ นิสสัย คือปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต อกรณียกิจ คือกิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ ฯ
ทั้ง ๒ อย่าง รวมเรียกว่า อนุศาสน์ ฯ -
สิกขา กับ สิกขาบท ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ ต่างกันอย่างนี้
สิกขา ได้แก่ข้อที่ควรศึกษา คือศีล สมาธิ และปัญญา
สิกขาบท ได้แก่พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ ฯ -
ภิกษุผู้ปฏิบัติอย่างไร จึงชื่อว่ามีศีล ?
ตอบ ภิกษุสำรวมกายวาจาให้เรียบร้อย เว้นข้อที่ทรงห้าม ทำตามข้อที่ทรงอนุญาต จึงชื่อว่ามีศีล ฯ -
อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติมีอะไรบ้าง ?
ตอบ มี ต้องด้วยไม่ละอาย ๑
ต้องด้วยไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นอาบัติ ๑
ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำ ๑
ต้องด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร ๑
ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร ๑
ต้องด้วยลืมสติ ๑ -
ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต เรียกว่าอะไร ? มีอะไรบ้าง ?
ตอบ เรียกว่า นิสสัย ฯ มี ๔ คือ
๑) เที่ยวบิณฑบาต
๒) นุ่งห่มผ้าบังสุกุล
๓) อยู่โคนต้นไม้
๔) ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ฯ -
ผู้ปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญาดีแล้ว จะได้รับประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ ย่อมได้รับประโยชน์ คือ
ปฏิบัติศีล ทำให้เป็นผู้มีกาย วาจา เรียบร้อย
ปฏิบัติสมาธิ ทำให้ใจสงบมั่นคง ไม่ฟุ้งซ่าน
ปฏิบัติปัญญา ทำให้รอบรู้ในกองสังขาร ฯ -
พูดอย่างไรเรียกว่า อวดอุตตริมนุสสธรรม ?
ตอบ พูดอวดคุณพิเศษอันยิ่งของมนุษย์ เช่น ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค ผล นิพพาน เรียกว่า อวดอุตตริ มนุสสธรรม ฯ -
ภิกษุทำคนอื่นให้ถึงแก่ความตาย ต้องอาบัติอะไร หรือไม่ ?
ตอบ ถ้าไม่จงใจ ไม่ต้องอาบัติ แต่ถ้าจงใจประสงค์จะให้เขาตาย ต้องอาบัติปาราชิก ฯ -
ภิกษุมีความกำหนัดจับต้องอนุปสัมบัน ต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ จับต้องอนุปสัมบันที่เป็นหญิง ต้องอาบัติสังฆาทิเสส จับต้องอนุปสัมบันที่เป็นบัณเฑาะก์ ต้องอาบัติถุลลัจจัย จับต้องอนุปสัมบันที่เป็นชาย ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ -
เภสัช ๕ ได้แก่อะไรบ้าง ? น้ำตาลทรายจัดอยู่ในข้อใด ?
ตอบ เภสัช ๕ ได้แก่ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ฯ น้ำตาลทราย จัดเข้าในน้ำอ้อย ฯ -
ผ้าไตรจีวร ที่ทรงอนุญาตให้ภิกษุอธิษฐานไว้ใช้มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ ที่ทรงอนุญาตมี ๓ อย่าง ฯ คือ
๑. สังฆาฏิ (ผ้าคลุม)
๒. อุตตราสงค์ (ผ้าห่ม)
๓. อันตรวาสก (ผ้านุ่ง) ฯ -
ภิกษุนำเก้าอี้ของสงฆ์ไปใช้ในที่แจ้ง เมื่อหลีกไปจากที่นั้นพึงปฏิบัติอย่างไร ? ถ้าไม่ปฏิบัติอย่างนั้น ต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ พึงเก็บเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นเก็บ หรือมอบหมายแก่ผู้อื่น ฯ
ถ้าไม่ปฏิบัติอย่างนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ -
พูดอย่างไร ชื่อว่าส่อเสียดภิกษุ ? ภิกษุพูดอย่างนั้นต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ เก็บความข้างนี้ไปบอกข้างโน้น เก็บความข้างโน้นมาบอกข้างนี้ ด้วยประสงค์จะให้เขารักตน หรือให้เขาแตกกัน ชื่อว่าส่อเสียดภิกษุ ฯ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ -
ภิกษุบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุอื่นแก่อนุปสัมบันเป็นอาบัติอะไรหรือไม่ ?
ตอบ ถ้าได้รับสมมติไว้ ไม่เป็นอาบัติ แต่ถ้าไม่ได้รับสมมติเป็นอาบัติปาจิตตีย์ตามสิกขาบทที่ ๙ แห่งมุสาทวรรค ฯ -
คำว่า “ภิกษุประทุษร้ายตระกูล” ในสิกขาบทที่ ๑๓ แห่งสังฆาทิเสส หมายถึงการทำอย่างไร ?
ตอบ หมายถึง การที่ภิกษุประจบคฤหัสถ์ ยอมตนให้เขาใช้สอย เช่น เดินส่งข่าวให้เขาเป็นต้น หรือโดยให้สิ่งของเล็กน้อยด้วยหวังได้มาก ฯ -
จีวร ผ้านิสีทนะ อังสะ ผ้าเช็ดหน้า ย่ามผ้า เมื่อจะใช้สอย อย่างไหนควรพินทุอย่างไหนไม่ควร ? เพราะเหตุใด ?
ตอบ จีวรและอังสะ ควรพินทุ เพราะใช้ห่ม ผ้านิสีทนะ ผ้าเช็ดหน้า และย่ามผ้า ไม่ต้องพินทุ เพราะไม่ได้ใช้นุ่งห่ม ฯ -
ไตรจีวร มีอะไรบ้าง ? ภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวรแม้คืนหนึ่ง ต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ มี ๓ อย่าง คือ สังฆาฏิ คือผ้าคลุม อุตตราสงค์ คือผ้าห่ม และ อันตรวาสก คือผ้านุ่ง ฯ
ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ฯ -
ภิกษุเข้าบ้านในเวลาวิกาล โดยไม่บอกลาภิกษุอื่นที่มีอยู่ในวัด ต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?
ตอบ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีกิจรีบด่วน ฯ -
ภิกษุซ่อนบาตร จีวร ร่ม และรองเท้าของเพื่อนภิกษุเพื่อล้อเล่นต้องอาบัติอะไรบ้าง ?
ตอบ ซ่อนบาตร จีวร ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ซ่อนร่ม รองเท้า ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ -
ภิกษุฉันพลางพูดพลาง จะต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?
ตอบ พูดทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในปาก ต้องอาบัติทุกกฏ พูดไม่มีอาหารอยู่ในปาก ไม่ต้องอาบัติ ฯ -
การนุ่งเป็นปริมณฑล คือการนุ่งอย่างไร ?
ตอบ การนุ่งเป็นปริมณฑล คือ นุ่งเบื้องบนปิดสะดือแต่ไม่ถึงกระโจมอก เบื้องล่างปิดหัวเข่าทั้ง ๒ ลงมาเพียงครึ่งแข้ง ไม่คลุมข้อเท้า ฯ -
เสขิยวัตร คืออะไร ? ภิกษุไม่ปฏิบัติตามต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ เสขิยวัตร คือ ธรรมเนียมที่ภิกษุต้องศึกษา ฯ ต้องอาบัติทุกกฎ ฯ -
ภิกษุเถียงกันด้วยเรื่องอะไร จึงเรียกว่า วิวาทาธิกรณ์ ?
ตอบ ภิกษุเถียงกันด้วยเรื่อง สิ่งนั้นเป็นธรรมเป็นวินัย สิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย เป็นต้น ฯ -
อธิกรณ์ อธิกรณสมณะ คืออะไร ?
ตอบ อธิกรณ์ คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ
อธิกรณสมถะ คือ ธรรมเครื่องระงับอธิกรณ์ฯ -
อธิกรณ์ คืออะไร ? เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร ?
ตอบ อธิกรณ์ คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ
เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องระงับด้วยอธิกรณสมถะอย่างใดอย่างหนึ่ตามสมควรแก่อธิกรณ์นั้น ๆ -
วิวาทาธิกรณ์ กับ อนุวาทาธิกรณ์ ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ วิวาทาธิกรณ์ คือ การเถียงว่าสิ่งนั้นเป็นธรรมเป็นวินัยสิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย
ส่วนอนุวาทาธิกรณ์ คือการโจทกันด้วยอาบัติ ฯ -
ข้อว่า เราจักบิณฑบาตโดยเคารพ นั้นมีธิบายอย่างไร ?
ตอบ มีอธิบายว่า รับโดยแสดงความเอื้อเฟื้อในบุคคลผู้ให้ ไม่ดูหมิ่น และให้แสดงความเอื้อเฟื้อในของที่เขาให้ ไม่ทำดังรับเอามาเล่นหรือเอามาทิ้งเสีย ฯ -
การตัดสินอธิกรณ์ตามเสียงข้างมากเรียกว่าอะไร ?
ตอบ การตัดสินด้วยเสียงข้างมาก เรียกว่า เยภุยยสิกา ฯ -
พระศาสดาทรงบัญญัติพระวินัยไว้เพื่ออะไร ?
ตอบ เพื่อป้องกันความประพฤติเสียหายของภิกษุสงฆ์ และเพื่อชักนำความประพฤติของภิกษุสงฆ์ให้ดีงาม ฯ
Tags:
เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี
เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นตรี 2566
เก็งข้อสอบวิชาวินัยบัญญัติชั้นตรี 2566
น.ธ.ชั้นตรี