เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖
ปัญหาเฉลยข้อสอบวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖
-
บุคคลเช่นไรชื่อว่าติดอยู่ในโลก ? ผู้ติดอยู่ในโลกจะได้รับผลอย่างไร ?
ตอบ บุคคลผู้ไร้พิจารณา ไม่หยั่งเห็นโดยถ่องแท้ เพลิดเพลินในสิ่งอันให้โทษ ระเริงจนเกินพอดีในสิ่งอันอาจให้โทษ ติดในสิ่งอันเป็นอุปการะ ชื่อว่า ติดอยู่ในโลก ฯ
ย่อมได้เสวยสุขบ้าง ทุกข์บ้าง อันสิ่งนั้น ๆ พึงอำนวย แม้สุขก็เป็นเพียงสามิส คือ มีเหยื่อเจือด้วยของล่อใจ เป็นเหตุแห่งความติด ดุจเหยื่อคือมังสะอันเบ็ดเกี่ยวไว้ ฯ -
คำว่า มารและบ่วงแห่งมาร หมายถึงอะไร ?
ตอบ คำว่า มาร หมายถึงกิเลสกาม อันทำจิตให้เศร้าหมอง ได้แก่ ตัณหา ราคะ และอรติ เป็นต้น
คำว่า บ่วงแห่งมาร หมายถึงวัตถุกาม ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ ฯ -
คำว่า มะทะนิมมะทะโน ธรรมยังความเมาให้สร่าง หมายถึงความเมาในอะไร ?
ตอบ หมายถึง ความเมาในอารมณ์อันยั่วยวนให้เกิดความเมาทุกประการ เช่น ชาติ สกุล อิสริยะ บริวาร ก็ดี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ดี ความเยาว์วัย ความไม่มีโรค และชีวิต ก็ดี นับเข้าในอารมณ์ประเภทนี้ ฯ -
วัฏฏะ ในคำว่า วัฏฏูปัจเฉโท นั้น หมายถึงอะไร ? และตัดวัฏฏะได้อย่างไร ?
ตอบ หมายถึง ความเวียนเกิดด้วยอำนาจกิเลส กรรม วิบาก ฯ
ตัดขาดได้โดยการละกิเลสอันเป็นเบื้องต้นเสีย ฯ -
โลกามิส คืออะไร ? ที่ได้ชื่ออย่างนั้นเพราะเหตุไร ?
ตอบ โลกามิส คือ กามคุณ ๕ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าชอบใจ ฯ
ได้ชื่ออย่างนั้น เพราะเป็นเครื่องล่อใจให้ติดอยู่ในโลกดุจเหยื่ออันเบ็ดเกี่ยวไว้ฉะนั้น ฯ -
คติ คืออะไร ? สัตวโลกตายไปแล้ว มีคติเป็นอย่างไรบ้าง ?
ตอบ คติ คือ ภูมิหรือภพเป็นที่ไปหลังจากตายแล้ว ฯ
มีคติเป็น ๒ คือ
๑. ทุคติ ภูมิเป็นที่ไปข้างชั่ว ซึ่งเกิดจากการประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ
๒. สุคติ ภูมิเป็นที่ไปข้างดี ซึ่งเกิดจากการประพฤติสุจริตทางกาย วาจา ใจ ฯ -
ผู้เจริญเมตตาเป็นประจำ ย่อมได้รับอานิสงส์อะไรบ้าง ? จงตอบมา ๓ ประการ
ตอบ ได้รับอานิสงส์ดังนี้
๑. หลับอยู่ก็เป็นสุข
๒. ตื่นอยู่ก็เป็นสุข
๓. ไม่ฝันเห็นสิ่งลามก
๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
๖. เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
๗. ไฟไม่ไหม้ พิษหรือศัสตราวุธทั้งหลายไม่อาจประทุษร้าย
๘. จิตย่อมตั้งมั่นได้เร็วพลัน
๙. ผิวพรรณย่อมผ่องใสงดงาม
๑๐. ไม่หลงทำกาลกิริยา คือเมื่อจะตายย่อมได้สติ
๑๑. เมื่อตายแล้วแม้เกิดอีก ก็ย่อมเกิดในที่ดีเป็นที่เสวยสุข ถ้าไม่เสื่อมจากฌาน ก็ไปเกิดในพรหมโลก ฯ
(เลือกตอบเพียง ๓ ข้อ) -
สมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ให้ผลต่างกันอย่างไร ?
ตอบ ให้ผลต่างกันดังนี้
สมถ ให้ผลอย่างต่ำทำให้ระงับนิวรณ์ได้ อย่างสูงทำให้เข้าถึงฌานต่าง ๆ ได้
ส่วนวิปัสสนา ให้ผลอย่างต่ำทำให้ได้ปัญญาเห็นสัจธรรม อย่างสูงทำให้ได้บรรลุอริยผลพ้นจากสังสารทุกข์ ฯ -
คนสัทธาจริตมีนิสัยอย่างไร ? คนประเภทนี้ควรเจริญกัมมัฏฐานใดบ้าง ?
ตอบ คนสัทธาจริต มีนิสัยเชื่อง่ายๆ ในถ้อยคำวาจาที่กล่าวดีและชั่ว ที่เป็นบุญและเป็นบาป เป็นต้น ฯ
คนประเภทนี้ควรเจริญอนุสสติกัมมัฏฐาน ๖ ประการ คือ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ และเทวตานุสสติ ฯ -
อารมณ์ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้แก่อะไร ?
ตอบ สังขารและธรรมทั้งปวง คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ ฯ
(หรือเขียนแบบนี้ก็ได้เช่นกัน)
อารมณ์ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน คือ สังขารทั้งหลาย ทั้งที่เป็นอุปาทินนกะ และ อนุปาทินนกะ (หรือ ธรรมในวิปัสสนาภูมิ คือ ขันธ์ อายตนะ ธาตุ เป็นต้น) ฯ