เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖

เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖



ปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖
เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖เฉลยปัญหาข้อสอบวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖


ปัญหาเฉลยข้อสอบวิชาพุทธ นักธรรมชั้นเอก ปีพ.ศ.๒๕๖๖

  1. พุทธานุพุทธประวัติ ให้ความรู้แก่ผู้ศึกษาทางใดบ้าง ? จงอธิบายพอได้ใจความ
    ตอบ ๑.ทางประวัติศาสตร์ เช่นความเป็นไปของบ้านเมืองในครั้งพุทธกาล และลัทธิธรรมเนียมของประชาชนในสมัยนั้น
    ๒. ทางจรรยาของพระพุทธเจ้า และจรรยาของเหล่าพระอริยสาวก
    ๓. ทางธรรมวินัยที่ปรากฏในตํานานและความเป็นมาแห่งศาสนธรรม พร้อมทั้งตัวอย่างการบํารุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง ฯ
  2. การที่พระพุทธองค์ทรงยืนยันพระองค์เองว่า เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ เพราะทรงอาศัยอะไร ?
    ตอบ เพราะทรงอาศัยเหตุที่ตรัสรู้อริยสัจ ๔ อันมีรอบ ๓ มีอาการ ๑๒ อย่าง แจ่มแจ้ง ครบถ้วนทุกประการ จึงทรงปฏิญาณพระองค์ว่า เป็นสัมมาสัมพุทธะ ฯ
  3. ภัพพบุคคล คือบุคคลเช่นใด ? ประเภทที่ ๑ ท่านเปรียบด้วยอะไร ?
    ตอบ ภัพพบุคคล คือบุคคลผู้สามารถจะตรัสรู้ธรรมได้ ฯ
    อุคฆติตัญญู เปรียบด้วยดอกบัวพ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จักบานในวันนั้น ฯ
  4. พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาที่ไหนเป็นแห่งแรก ? ทรงเห็นประโยชน์อะไรจึงทรงประดิษฐาน ณ ที่นั้น ?
    ตอบ ที่กรุงราชคฤห์ ฯ
    เพราะทรงเห็นว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่บริบูรณ์มั่งคั่ง และมีศาสดาเจ้าลัทธิมาก ถ้าได้โปรดคนเหล่านี้ให้เกิดความเลื่อมใสได้แล้ว การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ นั้น ล้วนมีศิษยานุศิษย์มาก ผู้คนนับถือมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทรงเลือกเมืองนี้เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรก ฯ
  5. พระอัสสชิแสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชกมีความว่าอย่างไร ? และมีผลอย่างไร ?
    ตอบ มีความว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุของธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสอนอย่างนี้ ฯ
    มีผล คือ อุปติสสปริพาชกได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้น เป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา ฯ
  6. พระมหากัสสปเถระประพฤติธุดงควัตรเพราะเห็นอำนาจประโยชน์อย่างไร ?
    ตอบ เพราะเห็นอำนาจประโยชน์ ๒ อย่าง คือ
    ๑. การอยู่เป็นสุขในบัดนี้ของตน
    ๒. เพื่ออนุเคราะห์ประชุมชนในภายหลัง จะได้เป็นทิฏฐานุคติ แห่งคนผู้มาเกิดในภายหลัง เมื่อทราบว่า สาวกของพระพุทธเจ้าได้ประพฤติอย่างนี้ เขาจะได้ประพฤติตาม ซึ่งเป็นทางอำนวยสุขแก่เขาเอง ฯ
  7. พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระราธะว่า “สิ่งใดเป็นมาร ท่านจงละความกำหนัดพอใจในสิ่งนั้นเสีย” มารในที่นี้ หมายถึงอะไร ?
    ตอบ มาร หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ฯ
  8. พระสาวกต่อไปนี้ ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศในทางใด ?
    ๑. พระมหากัสสปเถระ
    ๒. พระมหากัจจายนเถระ
    ๓. พระโมฆราชเถระ
    ๔. พระโสณกุฏิกัณณเถระ
    ๕. พระราหุลเถระ

    ตอบ ๑. พระมหากัสสปเถระ เป็นผู้เลิศในทางถือธุดงค์
    ๒. พระมหากัจจายนเถระ อธิบายความย่อให้พิสดาร
    ๓. พระโมฆราชเถระ ทรงจีวรเศร้าหมอง
    ๔. พระโสณกุฏิกัณณเถระ มีวาจาไพเราะ
    ๕. พระราหุลเถระ ผู้ใคร่ในการศึกษา
  9. การปลงอายุสังขาร หมายถึงอะไร ? พระพุทธเจ้าทรงกระทำที่ไหน ?
    ตอบ การปลงอายุสังขาร หมายถึง การที่พระพุทธเจ้าทรงกําหนดวันปรินิพพาน นับแต่วันเพ็ญเดือน ๓ ไปอีก ๓ เดือน ฯ
    ทรงกระทําที่ปาวาลเจดีย์ เมืองไพศาลี ฯ
  10. การทำสังคายนาครั้งแรก ใครทำหน้าที่ปุจฉาและวิสัชนา ? และทำที่ไหน ?
    ตอบ พระมหากัสสปะ ทําหน้าที่ปุจฉา
    พระอุบาลี ทําหน้าที่วิสัชนาพระวินัย
    พระอานนท์ ทําหน้าที่วิสัชนาพระสูตรและพระอภิธรรม ฯ
    ณ ถํ้าสัตตบรรณคูหา ฯ

ดาวน์โหลดเฉลยข้อสอบวิชาพุทธ/PDF