เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นโท วิชาธรรมวิภาค ปี 2567

เก็งข้อสอบนักธรรมชั้นโท วิชาธรรมวิภาค ปี 2567, เก็งข้อสอบวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท ปี 2567



⏏︎ ดาวน์โหลดเก็งข้อสอบ


  ติวเข้มเตรียมสอบธรรมสนามหลวง
  นักธรรมชั้นโท วิชาธรรมวิภาค
  ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗
  มีทั้งหมด ๓๐ ข้อดังนี้ครับ

๑. สมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน มุ่งผลแห่งการปฏิบัติอย่างไร ?
ต/ สมถกรรมฐานมุ่งผล คือความสงบใจ
วิปัสสนากรรมฐานมุ่งผล คือความเรืองปัญญา ฯ

๒. สังขตธรรมคืออะไร ?  มีลักษณะอย่างไร ?
ต/ สังขตธรรม คือธรรมอันปัจจัยปรุงแต่ง ฯ
มีลักษณะ คือมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแปรปรวนในท่ามกลาง มีความดับไปในที่สุด ฯ

๓. ตจปัญจกกัมมัฏฐาน มีอะไรบ้าง ?  เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอย่างไร ?
ต/ ตจปัญจกกัมมัฏฐาน ได้แก่ เกสา โลมา นขา ทันตา และตโจ ฯ
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มูลกัมมัฏฐาน ฯ

๔. บุคคลาธิฏฐานาเทศนา เทศนามีบุคคลเป็นที่ตั้ง มีอธิบายว่าอย่างไร ?
ต/ มีอธิบายว่า การสอนที่ยกบุคคลมาเป็นตัวอย่าง เช่น ในมหาชนกชาดก สอนเรื่องความเพียรโดยกล่าวถึงพระมหาชนกโพธิสัตว์ว่า ทรงมีความเพียรอย่างยิ่ง พยายามว่ายน้ําในท่ามกลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ มองไม่เห็นฝั่งอย่างไม่ย่อท้อ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะถึงฝั่ง ให้ได้ และทรงถึงฝั่งได้ดังประสงค์ ฯ

๕. บูชา ๒ คืออะไรบ้าง ?  การสมาทานศีล ๕ เป็นประจำจัดเป็นบูชาประเภทใด ?
ต/ บูชา ๒ คือ อามิสบูชา บูชาด้วยอามิสสิ่งของ ๑
ปฏิบัติบูชา บูชาด้วยการปฏิบัติตาม ๑ ฯ
เป็นปฏิบัติบูชา ฯ

๖. ปฏิสันถาร มีอะไรบ้าง ?  มีประโยชน์แก่ผู้ทำอย่างไรบ้าง ?
ต/ ปฏิสันถาร ได้แก่
๑) อามิสปฏิสันถาร ต้อนรับด้วยสิ่งของ
๒) ธัมมปฏิสันถาร ต้อนรับโดยธรรม ฯ
มีประโยชน์อย่างนี้คือ
๑) เป็นอุบายสร้างความสามัคคีและยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน
๒) เป็นการรักษาไมตรีจิตระหว่างกันและกันให้มั่นคงยิ่งขึ้น ฯ

๗. ความคิดที่เป็นฝ่ายอกุศล มีกี่อย่าง ?  อะไรบ้าง ?
ต/ มี ๓ อย่าง ฯ คือ
๑. กามวิตก ความตริในทางกาม
๒. พยาบาทวิตก ความตริในทางพยาบาท
๓. วิหิงสาวิตก ความตริในทางเบียดเบียน ฯ

๘. กิเลส กรรม วิบาก ได้ชื่อว่า วัฏฏะ เพราะเหตุไร ?  จะตัดให้ขาดได้ด้วยอะไร ?
ต/ เพราะหมุนเวียนกันไป คือกิเลสเกิดขึ้นแล้วเป็นเหตุให้ทํากรรม ครั้นทํากรรมแล้ว ย่อมได้รับวิบากกรรม เมื่อได้รับวิบากกรรมแล้ว กิเลสก็เกิดขึ้นอีก วนกันไปอย่างนี้ ฯ
ตัดให้ขาดด้วยอรหัตตมรรค ฯ

๙. สังโยชน์คืออะไร ?  พระโสดาบันละสังโยชน์อะไรได้ขาดบ้าง ?
ต/ สังโยชน์คือ กิเลสอันผูกใจสัตว์ไว้ ฯ
พระโสดาบันละสังโยชน์ ๓ เบื้องต้นได้ขาด คือ
๑) สักกายทิฏฐิ
๒) วิจิกิจฉา
๓) สีลัพพตปรามาส ฯ

๑๐. ญาณ ๓ ที่เป็นไปในทุกขสมุทัยมีอธิบายอย่างไร ?
ต/ ๑. ปรีชาหยั่งรู้ว่า นี้ทุกขสมุทัย จัดเป็นสัจจญาณ
๒. ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัย เป็นสภาพที่ควรละ จัดเป็นกิจจญาณ
๓. ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัย เป็นสภาพที่ละได้แล้ว จัดเป็นกตญาณ ฯ

๑๑. กายวิเวก จิตตวิเวก และอุปธิวิเวก หมายถึงอะไร ?
ต/ กายวิเวก หมายถึง สงัดกาย ได้แก่อยู่ในที่สงัด
จิตตวิเวก หมายถึง สงัดจิต ได้แก่ทําจิตให้สงบด้วยสมถภาวนา
อุปธิวิเวก หมายถึง สงัดกิเลส ได้แก่ทําใจให้บริสุทธิ์จากกิเลสด้วยวิปัสสนาภาวนา ฯ

๑๒. ปาฏิหาริย์คืออะไร ?  พระพุทธเจ้าทรงยกย่องปาฎิหาริย์อะไร ว่าเป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์อื่น ?
ต/ ปาฏิหาริย์ คือ การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ ฯ
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องอนุสาสนีปาฏิหาริย์ว่า เป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์อื่น ฯ

๑๓. พระอริยบุคคล ๔ ได้แก่ใครบ้าง ?  พระอริยบุคคลประเภทใดละอวิชชาได้เด็ดขาด ?
ต/ พระอริยบุคคล ๔ ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ฯ
พระอรหันต์ละอวิชชาได้เด็ดขาด ฯ

๑๔. อุปาทาน คืออะไร ?  การถือเราถือเขาด้วยอำนาจมานะ จนเป็นเหตุถือพวก จัดเป็นอุปาทานอะไร ในอุปาทาน ๔ ?
ต/ อุปาทาน คือการถือมั่นข้างเลว ได้แก่ถือรั้น ฯ
จัดเป็น อัตตวาทุปาทาน ฯ

๑๕. กิจในอริยสัจ ๔ มีอะไรบ้าง ?
ต/ กิจในอริยสัจ ๔ ได้แก่
๑) ปริญญา กำหนดรู้ทุกขสัจ
๒) ปหานะ ละสมุทัยสัจ
๓) สัจฉิกรณะ ทำให้แจ้งนิโรธสัจ
๔) ภาวนา ทำมัคคสัจให้เกิด ฯ

๑๖. เมตตา มีความหมายว่าอย่างไร ?  เมตตาในพรหมวิหาร และในอัปปมัญญา ต่างกันอย่างไร ?
ต/ เมตตา มีความหมายว่า ปรารถนาความสุขความเจริญต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ ฯ
ต่างกันโดยวิธีแผ่ คือ
แผ่โดยเจาะจงก็ดี โดยไม่เจาะจงก็ดี จัดเป็นพรหมวิหาร
ถ้าแผ่โดยไม่เจาะจงไม่จำกัด จัดเป็นอัปปมัญญา ฯ

๑๗. ชิวหาวิญญาณ และกายวิญญาณ เกิดขึ้นได้เพราะอาศัยอะไรบ้าง ?
ต/ ชิวหาวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยลิ้นกับรส
กายวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยกายกับโผฏฐัพพะ ฯ

๑๘. มาร ๕ คืออะไรบ้าง ?  ปัญจขันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นมารเพราะเหตุไร ?
ต/ มาร ๕ คือ ขันธมาร กิเลสมาร อภิสังขารมาร มัจจุมาร และเทวปุตตมาร ฯ
เพราะปัญจขันธ์นั้น บางทีทําความลําบากให้ อันเป็นเหตุเบื่อหน่ายจนถึงฆ่าตัวตายเสียเองก็มี ฯ

๑๙. มัจจุมารได้แก่อะไร ?  ได้ชื่อว่าเป็นมารเพราะเหตุไร ?
ต/ มัจจุมาร ได้แก่ ความตาย ฯ
ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเมื่อความตายเกิดขึ้น บุคคลย่อมหมดโอกาสที่จะทําความดีอีกต่อไป ฯ

๒๐. ในวิมุตติ ๕ วิมุตติอย่างไหนเป็นโลกิยะ อย่างไหนเป็นโลกุตตระ ?
ต/ ตทังควิมุตติ และวิกขัมภนวิมุตติ จัดเป็นโลกิยะ
สมุจเฉทวิมุตติ ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ และนิสสรณวิมุตติ จัดเป็นโลกุตตระ ฯ

๒๑. ในธรรมคุณบทว่า “พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว” หมายถึงอะไร ?
ต/ หมายถึง ปริยัติธรรมและปฏิเวธธรรม ฯ

๒๒. จริต คือ อะไร ?  คนมีปกติเชื่อง่ายเป็นจริตอะไร ?
ต/ จริต คือ พื้นเพอัธยาศัยของบุคคลที่แสดงออกมาตามปกติเป็นประจำ ฯ
คนมีปกติเชื่อง่ายเป็น สัทธาจริต ฯ

๒๓. อนุสัย หมายถึงกิเลสประเภทไหน ?  ได้ชื่อเช่นนั้นเพราะเหตุไร ?
ต/ อนุสัย หมายถึง กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน ฯ
เพราะกิเลสชนิดนี้ บางทีไม่ปรากฏ แต่เมื่อมีอารมณ์มายั่ว ย่อมเกิดขึ้นในทันใด ฯ

๒๔. วิญญาณฐิติต่างจากสัตตาวาสอย่างไร ?
ต/ ต่างกันอย่างนี้ ภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณ เรียกว่า วิญญาณฐิติ
ภพเป็นที่อยู่แห่งสัตว์ เรียกว่า สัตตาวาส ฯ

๒๕. พระพุทธคุณ บทว่า อรหํ แปลว่าอย่างไรได้บ้าง ?
ต/ อรหํ แปลว่า
๑. เป็นผู้เว้นไกลจากกิเลสและบาปกรรม
๒. เป็นผู้หักกําแห่งสังสารจักร
๓. เป็นผู้ควรแนะนําสั่งสอนเขา
๔. เป็นผู้ควรรับความเคารพนับถือของเขา
๕. เป็นผู้ไม่มีข้อลับ ไม่ได้ทําความเสียหายอันจะพึงซ่อนเพื่อมิให้คนอื่นรู้ ฯ

๒๖. พระพุทธคุณบทหนึ่งว่า เป็นผู้หักกำแห่งสังสารจักร ถามว่ากำได้แก่อะไร สังสารจักรได้แก่อะไร ?
ต/ กำ ได้แก่ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม
สังสารจักร ได้แก่ กิเลส กรรม วิบาก ฯ

๒๗. พระสงฆ์ปฏิบัติอย่างไร จึงได้ชื่อว่า อุชุปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติตรง ?
ต/ คือ ไม่ปฏิบัติลวงโลก ไม่มีมายาสาไถย ประพฤติตรงๆ ต่อพระศาสดา และเพื่อนสาวกด้วยกัน ไม่อําพรางความในใจ ไม่มีแง่มีงอน ฯ

๒๘. ครุกรรม คืออะไร ?  อนันตริยกรรมกับสมาบัติ ๘ เป็นครุกรรมฝ่ายกุศลหรืออกุศล ?
ต/ ครุกรรม คือ กรรมหนัก ฯ
อนันตริยกรรม เป็นครุกรรมฝ่ายอกุศล
ส่วนสมาบัติ ๘ เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล ฯ

๒๙. ในกรรม ๑๒ อุปัตถัมภกกรรม กับอุปปีฬกกรรม ทำหน้าที่ต่างกันอย่างไร ?
ต/ อุปัตถัมภกกรรม ทำหน้าที่สนับสนุนผลแห่งชนกกรรม
อุปปีฬกกรรม ทำหน้าที่บีบคั้นผลแห่งชนกกรรม ฯ

๓๐. ธุดงค์ คืออะไร ?  มีกี่หมวด ?  หมวดไหนว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ต/ ธุดงค์ คือ วัตตจริยาพิเศษอย่างหนึ่ง เป็นอุบายขัดเกลากิเลส และเป็นไปเพื่อความมักน้อยสันโดษ ฯ
มี ๔ หมวด ฯ ดังนี้
หมวดที่ ๑ ว่าด้วยเรื่องจีวร
หมวดที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องบิณฑบาต
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยเรื่องเสนาสนะ
หมวดที่ ๔ ว่าด้วยเรื่องความเพียร ฯ

⏏︎ ดาวน์โหลดเก็งข้อสอบ